การทักทายผู้อื่น (Greetings) ป.1

Greetings (การทักทาย)



1. คำกล่าวทักทายทั่วไป

หลายคนคงจะคุ้นหู กับคำว่า Hi และ Hello กันดี อยู่แล้วใช่มั้ยล่ะคะ แต่รู้มั้ยคะว่า ทั้ง 2 คำนี้ มีความหมาย เชิงลึกที่ต่างกันนะคะ มาดูกันเลยว่า 2 คำนี้ ต่างกันอย่างไร 


Hi   คำนี้นะคะ จะเป็นคำทักทายที่ไม่ค่อยเป็นทางการเท่าไหร่ ถ้าแปลเป็นภาษาไทยก็จะประมาณว่า "หวัดดี" อะไร ทำนองนี้นะคะ ใช้ทักทายคนคุ้นเคย เพื่อนสนิท เป็นคำทักทายที่เป็นกันเองนะคะ

Hello  เป็นคำทักทายแบบเป็นทางการ ใช้ได้กับทุกๆสถานการณ์ เลยนะคะ ใช้ทักทายบุคคลทั่วไป ถ้าแปลเป็นภาษาไทย Hello จะมีความหมายว่า สวัสดีครับ/สวัสดีค่ะ นั่นเองค่ะ


2. คำกล่าวทักทายในช่วงเวลาต่างๆ



Good morning / กึด มอ นิ่ง/  สวัสดีตอนเช้ ใช้ทักทาย ตั้งแต่เช้าถึงเที่ยงวัน 

Good afternoon / กึด อาฟ เตอะ นูน/ สวัสดีตอนบ่าย ใช้ทักทายตั้งแต่หลังเที่ยงถึง 18.00 น.  ไปจนถึงเที่ยงคืน

Good evening /กึด อีฟ นิ่ง/ สวัสดีตอนเย็น ใช้ทักทายตั้งแต่       18.00 น. ไปจนถึง เที่ยงคืน

Good night / กึด ไน้ท์/ ราตรีสวัสดิ์ ใช้กล่าวลาในตอนกลางคืนหรือก่อนนอน



การสอบถามทุกข์-สุข



สำนวนการถาม "สบายดีไหม?"


How are you?  /ฮาว อา ยู/  คุณสบายดีไหม


การตอบรับ ว่า "สบายดี"

แบบที่ 1 ในกรณีที่อยากถามต่อ " ว่าคุณล่ะ สบายดีมั้ย" ให้ใช้ประโยค

               I'm fine. Thank you, and you?
               /อั๋ม ฟาย แต้ง กิ้ว แอน ยู/
               ฉันสบายดี ขอบคุณ แล้วคุณล่ะ

แบบที่ 2 ในกรณี ตอบรับเฉยๆ ไม่ถามต่อ ให้ใช้ประโยค

               I'm fine, thank you.
               / อั๋ม ฟาย แต้ง กิ้ว/
              ฉันสบายดี ขอบคุณ 

แบบที่ 3 การตอบรับว่า "ฉันสบายดี" นอกจาก I'm fine. สามารถตอบได้หลากหลาย ดังนี้

               I'm okay.  /อั๋ม โอ เค/ ฉันโอเค
               I'm good.  /อั๋ม กืด/ ฉันสบายดี
               I'm great.  /อั๋ม เกร็ท/ ฉันสบายดีมาก
               I'm very well.  /อั๋ม เวรี่ เวว/ ฉันสบายดีมากๆ


ตัวอย่าง ใบความรู้ เรื่อง GREETINGS (การทักทาย)









ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Telling the time (การบอกเวลา)

Singular and Plural Noun (คำนามเอกพจน์และพหูพจน์)

หลักการใช้ some กับ any